สตาร์ฮอล์ค
การหนุนช่วยภาวะเจ็บปวดฝังลึก
การทำปฏิบัติการทางสังคมไม่ใช่เรื่องง่าย ในการที่จะยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งเพื่อโลก เพื่อเสรีภาพ และเพื่อสิทธิมนุษยชนในเวลาที่ยากลำบาก เรามักจะเผชิญกับความรุนแรง ที่ทำให้เจ็บปวด เราจำเป็นต้องรู้วิธีพยุงกันและกันไว้ ต้องรู้ถึงการตอบสนองแบบมนุษย์ของเราต่อภาวะเจ็บปวดฝังลึก และรู้จักอาการของกลุ่มโรคความเครียดภายหลังประสบเหตุการณ์เจ็บปวดฝังลึก (Post Traumatic Stress Sydrome)
ข้างล่างนี้ได้ระบุอาการบางอย่างไว้ ทั้งหมดนั้นก็คือส่วนหนึ่งของการตอบสนองแบบมนุษย์ของเราต่อภาวะเจ็บปวดฝังลึก ความยาวนานของอาการและความรุนแรงของอาการนั้นต่างหาก ที่จะทำให้มันจะทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต ถ้าคุณยังคงมีอาการที่ยังรุนแรงอยู่นาน 3 เดือนภายหลังปฏิบัติการ คุณจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ระดับความเจ็บปวดของเราจะต่างกันไป ขึ้นกับพื้นเพของเรา และระดับของความรุนแรงที่ประสบ การเห็นคนอื่นถูกทุบตี ย่อมต่างจากการที่เราเองถูกทุบตี แต่นั่นก็ยังเป็นความเจ็บปวดอยู่นั่นเอง และอาจจะมีความรุนแรงทางอารมณ์มากกว่าด้วยก็ได้ คนที่มาจากครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงในวัยเด็ก คนที่เคยถูกข่มขืน ถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกข่มเหงรังแก อาจมีความเสี่ยงที่ผลกระทบจากความรุนแรงจะตกค้างยาวนาน
อาการบางอย่าง
กินหรือนอนผิดปกติไปจากเดิม บางคนกินหรือนอนไม่ได้เลย บางคนอาจจะกินหรือนอนแบบหยุดไม่อยู่ ไม่สามารถลืมภาพหรือความทรงจำที่น่ากลัว ไม่สามารถจะมีความรู้สึกใดๆ หดหู่ ไม่รู้สึกมีความรื่นเริงในชีวิต โกรธแค้น (การโกรธแค้นเป็นการตอบโต้ที่สมควรต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ความโกรธแค้นที่ทำให้คุณทำอะไรไม่ได้เลย หรือความโกรธแค้นที่ทำลายตัวคุณเอง หรือความโกรธแค้นที่ไปลงผิดคน ถือว่าเป็นอาการ)
การใช้ยาหรือเหล้าเพื่อเยียวยาตัวเอง ความกลัว ความกระวนกระวาย ความตื่นกลัว การทำร้าย และความกลัวแบบไม่มีเหตุผล ความรู้สึกผิด เสียใจ โทษตัวเอง คนที่หลบหนีเรื่องร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นได้ก็อาจจะมีความรู้สึกผิดแบบผิดที่ตัวเองรอดมาได้ ความเศร้ามากเกินไป ไม่สามารถทำหน้าที่ หรือวางแผน หรือตัดสินใจได้ตามปกติ ความรู้สึกอับอาย คิดหรือรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย
คุณจะช่วยเหลือตัวคุณเองได้อย่างไร
ไปหาเพื่อนๆ หรือพันธมิตรของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือและติดต่อกัน อย่าตัดขาดตัวเองจากคนอื่น จำไว้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกอับอายหรือรู้สึกผิด แม้ว่าคุณจะพบว่าตัวเองมีอาการแบบนี้ต่อภาวะเจ็บปวดของคุณ คนที่ผิดก็คือคนที่ทุบตี ทำร้ายและฆ่า ก็คือคนที่ออกคำสั่งให้ทำอย่างนั้น แต่ไม่ใช่คุณ คุณรับมือได้ดีที่สุดแล้วกับสถานการณ์ที่โหดเหี้ยมขนาดนั้น การเป็นนักกิจกรรมคือสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ ความทุ่มเท และมโนธรรมของคุณ อย่ายอมให้คนอื่นพูดถึงคุณแบบอื่นที่ไม่ใช่แบบนี้
จงมีความภูมิใจ
เพื่อนและสมาชิกในครอบครัว อาจจะทำตัวชนิดที่ทำทุกอย่างให้แย่ลงไปอีกเพราะความทุกข์ของพวกเขาเอง คุณมีสิทธิเต็มที่ที่จะบอกให้พวกเขาหยุด ที่จะออกจากสถานการณ์ที่มีแต่จะทำลายคุณ และไปหาความช่วยเหลือจริงๆ จำไว้ว่าคนเราสามารถเอาตัวให้รอดพ้นจากเรื่องที่โหดร้ายแบบนั้นได้จริง และจะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีก แต่คุณจำเป็นต้องใช้เวลาที่จะทุ่มเทให้กับการเยียวยาตัวเอง ตอนนี้อย่าวิตกว่าคุณจะกลับมาทำปฏิบัติการได้อีกหรือไม่ จงรู้ไว้ว่า การเยียวยาตัวเองจากเหตุการณ์นี้ก็คือการปฏิบัติการทางการเมืองเหมือนกัน
สิ่งที่คุณจะช่วยเหลือเพื่อนๆได้
- หาพวกเขาให้พบ
- ติดต่อกับพวกเขา
- อย่าปล่อยให้พวกเราหายตัวไปอยู่คนเดียว
- คนที่ฉันเป็นห่วงเป็นพิเศษก็คือคนที่อาจจะมาร่วมการปฏิบัติการเพียงลำพัง หรือไม่มีเพื่อนอยู่ในเมืองเดียวกัน พวกเขาจำเป็นต้องมีการติดต่อกับคนที่เคยไปปฏิบัติการ คนที่อย่างน้อยก็เข้าใจอะไรบ้างเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเผชิญ
- ติดต่อกันเสมอ
- โทรศัพท์ถึงพวกเขา ถามว่าเป็นอย่างไรบ้างถ้าคนนั้นกำลังนอนอยู่
- จำไว้ว่า แรกๆ ผู้คนมักจะคิดว่าตัวเองสบายดี แต่ต่อมาก็เริ่มจะเป็นทุกข์จากผลของภาวะเจ็บปวดฝังลึก
- ต้องตั้งใจว่าจะติดต่อกันไปอย่างน้อยก็เป็นเดือนๆ ไม่ใช่แค่สองสามวันแรก
- ช่วยให้พวกเขาพูด เราจำเป็นต้องบอกเล่าเรื่องราวของเรา และบางครั้งก็ต้องเล่าซ้ำแล้วซ้ำอีก ดีที่สุดก็คือบอกเล่ากับคนเคยผ่านเหตุการณ์มาแล้วและมีความเข้าใจ แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็บอกกับใครก็ได้ที่อย่างน้อยก็รับฟัง ยอมรับความรู้สึกของเราแบบเต็มๆ โดยไม่พยายามปลอบเรา
- หาอาหารให้เขากิน ไปซื้อของ ทำอาหาร และทำความสะอาดให้เขา ดูแลสัตว์เลี้ยงของเขา
- อยู่เป็นเพื่อนเขา ช่วยพาเขาไปยังที่ที่เขาต้องไป
- เป็นตัวแทนของเขาในกระบวนการทางการแพทย์ ทางกฎหมาย หรือในทางสุขภาพจิต
- ช่วยเขาจัดกำหนดนัดหมายต่างๆ และไปเป็นเพื่อน
- ช่วยเขากรอกแบบฟอร์มต่างๆ และเขียนแถลงการณ์
- หาความช่วยเหลือและทรัพยากรให้เขาตามสมควร
- ช่วยพูดแทนเขากับโรงเรียนหรือกับที่ทำงานของเขา
- ช่วยประคับประคองครอบครัวและเพื่อนของเขา ที่ยังคงตกอยู่ในความเศร้า อาการช็อก และความโกรธแค้น
- พูดแทนเขา หรือเป็นกันชนระหว่างพวกเขากับสมาชิกในครอบครัว คนรัก หรือเพื่อน ซึ่งคนเหล่านี้ ด้วยระดับความเครียดและความกลัวของพวกเขาเองจะทำให้พวกเขาตอบโต้ในแบบที่ไม่เป็นประโยชน์
- ยินดีให้พวกเขาระบายความโกรธใส่คุณ
- พยายามอธิบายอย่างละมุนละม่อมถึงความเป็นจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น
- ช่วยให้พวกเขาไปเป็นพยาน แต่อย่าชี้นำ คนบางคนอาจจะพบว่าจะรู้สึกสบายขึ้นอย่างมากที่สุดเมื่อได้พูดออกไป และเล่าเรื่องราวของตนแก่สาธารณะ คุณอาจช่วยเชิญสื่อมวลชน หรือจัดสถานที่ให้พวกเขาได้เล่าเรื่องกับกลุ่มคน แต่สำหรับบางคน การทำแบบนี้อาจจะเป็นการกระตุ้นอย่างรุนแรง ช่วยให้พวกเขาพบวิธีที่จะเป็นพยานได้ เช่นเขียนเล่าเรื่องราว เขียนแถงการณ์ที่ให้คนอื่นอ่านให้ อัดเสียงหรือถ่ายวิดีโอที่บ้าน
- ต่อสู้ต่อไป หาวิธีที่พวกเขาจะยังคงติดต่อกับการต่อสู้และยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ แม้ว่าพวกไม่อาจจะออกไปร่วมทำปฏิบัติการได้
ทั้งหมดนี้ จำไว้ว่าเพื่อนของคุณเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบต่อการเยียวยาตัวของเขาเอง อย่าทำตัวเป็นพ่อแม่เขาหรือทำให้เขาเป็นเหมือนเด็กๆ แต่สนับสนุนให้เขาสามารถเลือกหนทางด้วยตัวเอง
(จากเว็บไซต์ http://portland.indymedia.org/en/2003/12/275890.shtml เขียนโดยสตาร์ฮอล์ค)
ผู้แปล: ลภาพรรณ ศุภมันตา
แปลจาก “mass action handbook: getting your community on the road and into the street”, http://www.uproot.info/actionhandbook/index.html