การไปเข้าร่วมปฏิบัติการบนท้องถนนหรือการชุมนุมมวลชนแต่ละครั้งต้องใช้พลังงานมหาศาล ดังนั้นเมื่อเราไปถึงที่นั่นจะต้องมั่นใจว่าการไปเข้าร่วมของเราต้องได้ผล เราไม่ได้เดินทางมาตั้งไกลเพื่อที่จะ “ไปดูซะหน่อย” แต่เราเข้าร่วมก็เพื่อหนุนเสริมปฏิบัติการ เรายังทำหลายสิ่งหลายอย่างได้อีกมาก และยุทธวิธีทั้งหลายนั้นก็ย่อมเสี่ยงมากน้อยต่างกันไป เราจึงพึงตระหนักและเต็มใจรับความเสี่ยงซึ่งเปลี่ยนไปได้ตลอดขณะเข้าร่วมปฏิบัติการ
องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดก่อนเข้าร่วมปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพ คือความเข้าใจว่าเราแต่ละคนไม่อาจเปลี่ยนโลกนี้ได้โดยลำพัง หากจะต้องทำงานร่วมกับคนอื่นๆ การเรียนรู้การทำงานร่วมกับคนอื่นนั้นเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดและยากที่สุดของนักกิจกรรม ดังนั้นมาเรียนรู้กันเถอะว่าจะเป็นกลุ่มเครือสหายได้อย่างไร
ในบทนี้เราจะชี้ให้เห็นวัฒนธรรมรักษาความปลอดภัยและยุทธวิธีที่หลากหลายอย่างสั้นๆ แล้วจากนั้นจะมาดูโครงสร้างพื้นฐาน บทบาทสำคัญ และปฏิบัติการที่ทำได้
วัฒนธรรมรักษาความปลอดภัย
ดูจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่นักกิจกรรมมักจะปฏิบัติการท่ามกลางบรรยากาศของความลับ ความระแวงสงสัยจนเกือบจะเป็นโรคจิตหวาดระแวงกันแล้ว เรามักคอยสังเกตคนโน้นคนนี้ว่าเป็นสันติบาลหรือไม่ เป็นสายข่าวใคร มาจากสายไหน กลุ่มไหน ฯลฯ จนกระทั่งหลายคนที่อาจจะไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นต้องหลุดจากกลุ่มของเราไปอย่างน่าเสียดาย
วัฒนธรรมรักษาความปลอดภัยหรือ “ปิดลับ” นั้นเป็นปัญหาหนึ่งของปฏิบัติการเลยทีเดียว ต่อไปนี้คือข้อสังเกตบางอย่างเกี่ยวกับความเห็นดังกล่าว (บางข้อเราหาได้อุปาทานเอาเองไม่)
- ถ้าความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยกลายเป็นอุปสรรคไม่ให้ผู้คนทำสิ่งที่พวกเขาตั้งใจมาทำละก็ ความกังวลนี้ก็เริ่มมากจนเกินเหตุแล้วละ
- วัฒนธรรมรักษาความปลอดภัยไม่ก่อเกิดผลดีใดๆ ถ้ามันทำให้เราปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความหวาดระแวง แทนที่จะยินดีโอบรับพวกเขาเยี่ยงมิตรสหาย
- เราอาจสันนิษฐานได้เช่นกันว่าการประชุมเกือบทุกครั้งมีคนอื่นแทรกซึมเข้ามา และตำรวจรู้ว่าเรากำลังทำอะไร เนื่องจากสิ่งที่เรากำลังทำอยู่คือการแสดงออกถึงสิทธิในการพูดอย่างเสรีในทางสร้างสรรค์ เราจึงไม่ควรรู้สึกว่ามีอะไรต้องแอบซ่อน ในทางตรงข้าม ยิ่งพวกเขามาวนเวียนอยู่ในการประชุมของเรา พวกเขาก็จะยิ่งได้รู้ว่า (และเรารู้ว่าพวกเขาก็รู้) เราไม่ใช้ความรุนแรง เป็นประชาธิปไตย และความคิดเกี่ยวกับโลกใบนี้ก็ออกจะน่าสนใจ
- ถ้าเรากังวลเป็นพิเศษที่จะเก็บข้อมูลความเคลื่อนไหวไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ เราก็จะปฏิบัติการแต่ในวงเล็กๆ ที่มีเฉพาะคนที่เราไว้ใจเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นต้องมีวัฒนธรรมรักษาความปลอดภัย
- การปิดลับนั้นหมายความว่ามีบางคนรู้บางคนไม่รู้ การที่มีใครบางคนรู้หมายถึงเขามีข้อมูลมากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดลำดับชั้นขึ้นในกลุ่ม มีคนไม่กี่คนที่รู้ข้อมูลมากกว่าคนอื่น ในขณะที่คนจำนวนมากแทบไม่รู้อะไรเลย และนี้คือรากฐานหนึ่งของลัทธิชนชั้นนำอันนำไปสู่ความไม่เป็นประชาธิปไตย
เราจะพบเจอวัฒนธรรมรักษาความปลอดภัยขณะปฏิบัติการอยู่บ่อยๆ บางคนวิตกกังวลหนักว่าตำรวจคอยจับตาดูอยู่และเข้าแทรกซึม พวกเขาจะปฏิบัติต่อคนแปลกหน้า (และเพื่อนบางคนด้วย) ราวกับพวกนั้นเป็นตำรวจ ขณะที่คนอื่นๆ กลับรู้สึกว่าการปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความหวาดระแวงนั้นไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับวัฒนธรรมรักษาความปลอดภัย ขอให้เราจำเรื่องต่อไปนี้ไว้
- เคารพขอบเขตของผู้อื่น
- อย่าคิดว่าเขาระแวงเราเป็นการส่วนตัว
- อย่าเปลี่ยนท่าทีของเราเพียงเพราะคนอื่นมีท่าทีไม่เป็นมิตร
- อย่ากล่าวหานักกิจกรรมคนอื่น จงตระหนักว่าการสมคบก่อคดีอุกฉกรรจ์เป็นข้อหารุนแรงที่อาจทำให้นักกิจกรรมบางคนต้องติดคุกเป็นเวลานาน จงอย่าแสดงให้ใครเห็นว่าเรารู้ว่าใครเป็นคนจัดตั้ง วางแผน หรือนำปฏิบัติการโดยเด็ดขาด อย่าปล่อยให้ตัวเองคิดหรือรู้สึกว่ามัน “เท่” มากที่เรารู้เรื่องพวกนี้ แต่เรื่อง “เท่ๆ” ที่เราควรทำก็คือเป็นเอกภาพกับนักกิจกรรมคนอื่นๆ และถือว่าข้อมูลที่เราได้มาเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์และเป็นความลับ ไม่ควรโอ้อวดหรือบอกใคร ถ้าใครก็ตาม (แม้แต่แม่เราเอง) ถามว่าปฏิบัติการนี้ใครเป็นคนต้นคิดหรือใครจัดตั้งก็ให้เปลี่ยนเรื่องคุย การโกหกเจ้าหน้าที่ตำรวจถือว่าผิดกฎหมาย (แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจโกหกเราเป็นเรื่องถูกกฎหมายก็ตาม) แต่การปฏิเสธจะให้ปากคำไม่ผิดกฎหมายนี่นา ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจถามเราว่าใครเป็นคนต้นคิดปฏิบัติการนี้ ก็ให้บอกว่า “ฉันไม่พูดเรื่องนี้” อย่ากังวลที่จะพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าอีกฝ่ายจะเบื่อไปเอง
ยุทธวิธีที่หลากหลาย
ในการประท้วงเราจะพบยุทธวิธีต่างๆ มากมายที่นำมาใช้กัน ในที่นี้ใช้คำว่า “ยุทธวิธีที่หลากหลาย” เพื่อจะบอกว่า
- ทุกๆ ยุทธวิธีใช้เพื่อบรรลุผลบางอย่าง และมีส่วนช่วยการต่อสู้ในภาพรวมเมื่อเราหลอมรวมยุทธวิธีต่างๆ มาใช้
- ทุกๆ ยุทธวิธีใช้สื่อสารได้ผลกับคนที่เราต้องการจัดตั้งบางคน แต่อาจใช้ไม่ได้ผลกับคนอื่นๆ
- “ยุทธวิธีที่หลากหลาย” คือบททดสอบเพื่อสร้าง “ประชาธิปไตยที่เราอยากเห็น” อะไรที่ดูยุ่งเหยิง ไม่มีการจัดการ หรือแม้แต่ขัดแย้งกัน ก็คือกระบวนการทางสังคมของความเป็นเอกภาพที่คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของคนทุกๆ คนที่มารวมกันเพื่อจะทำการให้สำเร็จ
- การวิเคราะห์สิ่งต่างๆ หลากหลายประกอบกันจะทำให้การวิเคราะห์ขบวนการเคลื่อนไหวโดยรวมหนักแน่นขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้การประท้วงสนุกยิ่งขึ้นและไม่ตกยุค
โครงสร้างพื้นฐานเวลาปฏิบัติการ
จุดนัดพบ/ศูนย์ต้อนรับ
สถานที่นี้เป็นคล้ายๆ ที่ทำการใหญ่ของนักกิจกรรม ที่นี่จะมีแผนที่ กำหนดการ กิจกรรม ใบปลิว กระดานติดประกาศ หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ และกิจกรรมต่างๆ ที่เราจะเข้าร่วมได้
ถ้าเราไม่เคยไปสถานที่นี้มาก่อน ในบทที่ 10 เรามีข้อมูลมากกว่านี้ว่าจุดนัดพบจะมีอะไรบ้าง
ศูนย์อื่นๆ
ศูนย์อื่นๆ อีกหลายศูนย์อาจจะตั้งอยู่ที่เดียวกับจุดนับพบหรือศูนย์ต้อนรับ หรืออาคารหลังอื่นก็ได้ ศูนย์อื่นๆ ได้แก่
- ที่ประชุม (สำหรับสภาโฆษกหรือการประชุมอื่นๆ)
- โรงผลิตอุปกรณ์ปฏิบัติการหรืองานศิลปะอื่น
- คลินิกแพทย์
- พื้นที่เตรียมอาหารของกลุ่ม “ฟู้ดนอตบอมส์” (food not bombs)*
- ศูนย์สื่อมวลชนอิสระ (Independent Media Center หรือศูนย์ไอเอ็มซี) ปฏิบัติการทุกครั้งจะมีการตั้งศูนย์ไอเอ็มซีขึ้นมาเพื่อช่วยให้คนทำหน้าที่สื่อได้ด้วยตัวเอง (www.indymedia.org)
* กลุ่มฟู้ดนอตบอมส์เป็นการรวมตัวของนักกิจกรรมต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ที่สหรัฐอเมริกาที่ใช้วิธีการประท้วงด้วยการแจกอาหาร ของใช้จำเป็นและปัจจัยสี่ให้ทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยก Food Not Bombs เริ่มทำกิจกรรมครั้งแรกเมื่อปี 1981 โดยประท้วงกลุ่มผู้บริหารธนาคารบอสตัน (Bank of Boston) ที่สนับสนุนการก่อสร้างและซื้อพลังงานนิวเคลียร์ หน้าอาคาร South Station ที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยแต่งกายเป็นคนไร้บ้านยืนแจกซุปหน้าอาคารนั้นให้ผู้สัญจรผ่านไปผ่านมา http://foodnotbombs.net/new_site/
สภาโฆษก
เป็นการประชุมใหญ่ประจำคืนซึ่งทุกกลุ่มเครือสหายจะต้องส่งตัวแทนมาร่วม การประชุมนี้ไม่เปิดให้สื่อมวลชน (แม้จะเป็นสื่อทางเลือกก็ตาม) และตำรวจ แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย คาดว่าตำรวจก็แทรกซึมเข้ามาอยู่ดี ในที่ประชุมนี้ กลุ่มผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์ ทางกฎหมาย ฯลฯ จะรายงานสถานการณ์ล่าสุด และวางแผน “กรอบการทำงาน” ของปฏิบัติการ นั่นหมายความว่ามีการตัดสินใจบางประการเกิดขึ้น เช่น กลุ่มใหญ่จะพบกันที่ไหน เวลาและสถานที่ไหนจะ “เขียว” (ไม่มีการเผชิญหน้า และ “ปลอดภัย” ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับคนที่จะไม่ถูกจับ พวกเด็กๆ เป็นต้น) หรือ “เหลือง” (รวมถึงปฏิบัติการท้าทายซึ่งหน้าที่อาจสุ่มเสี่ยงถูกตำรวจตอบโต้) บ่อยครั้งที่การประชุมสภาโฆษกจำกัดให้โฆษกตัวแทนกลุ่มเครือสหายเท่านั้นได้พูด
ปฏิบัติการสร้างความรู้และกิจกรรมด้านการศึกษา
มีการจัดกิจกรรมด้านการศึกษาอย่างกว้างขวาง ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการมวลชน อย่าลืมใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้จากกิจกรรมนี้เพื่อจะได้เข้าใจการวิเคราะห์สถานการณ์และกรอบคิดเรื่องการต่อต้านที่ขบวนการเคลื่อนไหวต่างๆ ทั่วโลกพัฒนาขึ้นมา
บทบาทในกลุ่ม (อาจผลัดกันวันต่อวัน)
ผู้หนุนช่วยด้านกฎหมายภาคสนาม
คนคนนี้จะต้องอยู่ในเขตสีเขียวเป็นหลักตลอดช่วงปฏิบัติการ รายละเอียดให้ดูบทที่ 7
ผู้ประสานงานสื่อมวลชน
หลายคนในกลุ่มอาจจะรู้สึกอึดอัดเวลาคุยกับสื่อมวลชน แม้ว่าทุกคนควรรับผิดชอบในการตอบคำถามที่ว่า “ทำไมเราถึงมาที่นี่ในวันนี้” ได้อย่างชาญฉลาดถ้าไมโครโฟนยื่นมาตรงหน้า แต่หลังจากนั้นอย่าลังเลที่จะส่งไม้ต่อไปยังผู้ประสานงานสื่อมวลชนของกลุ่ม ผู้ประสานงานที่ทำหน้าที่นี้ควรต้องคุ้นเคยกับประเด็นที่กำลังพูดถึงอยู่ (ที่หาได้จากอินเทอร์เน็ตหรือกลุ่มของเราเขียนขึ้นมาเอง) และสะดวกคุยกับสื่อมวลชน ถ้ากลุ่มของเราสะดุดตามาก (อาทิ การแต่งตัว ฯลฯ) ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งที่เราจะได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน และเราจำเป็นต้องพร้อมรับมือเสมอ
ผู้ประสานงานตำรวจ
ถ้ากลุ่มของเราปฏิบัติการกันเอง เราควรแต่งตั้งผู้ประสานงานกับตำรวจ คนคนนี้ ไม่เจรจาต่อรองกับตำรวจ เพียงแค่รับส่งข้อมูลไปมาระหว่างตำรวจกับกลุ่มที่ปฏิบัติการอยู่เท่านั้น คนคนนี้มีความสำคัญมากในการรักษาความปลอดภัย เมื่อตำรวจเกิดสับสนขึ้นมา หรือกลุ่มไม่ประสงค์จะคุยกับตำรวจโดยตรง
ผู้ดูแลงานศิลป์
หุ่นกระบอก สัญลักษณ์ ป้าย อาจเสียหายได้มากระหว่างขนส่งและปฏิบัติการ ผู้ดูแลงานศิลป์จะทำให้มั่นใจว่างานศิลป์และอุปกรณ์ทั้งหมดจะได้รับการซ่อมแซมตอนกลางคืนและพร้อมนำออกไปใช้งานในตอนเช้า เขาจะขอให้คนอื่นช่วยประเมินความเสียหายและซ่อมแซมภายหลังปฏิบัติการ ยกงานศิลป์ขึ้นรถ และสอนใครก็ตามที่จำเป็นต้องรู้ว่าจะติดตั้งงานศิลป์นั้นอย่างไร และนำออกไปยังท้องถนนได้อย่างไร
ผู้ดูแลงานเขียน
ถ้าปฏิบัติการของเรามีงานเขียนเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ดูแลงานเขียนจะคอยสำเนาเอกสาร รวบรวมเงิน และช่วยทำสำเนาเพิ่มเติมให้ทันเวลา
ผู้รายงานสถานการณ์ล่าสุด
จำเป็นยิ่งที่จะต้องส่งข้อมูลให้เพื่อนๆ ผู้สนับสนุน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกิจกรรมในชุมชนหรือท้องถิ่นของเราที่ช่วยให้เราเดินทางมาเข้าร่วมปฏิบัติการมวลชนครั้งนี้ได้ จะต้องมีคนสักคนมารับภาระด้านการโทรศัพท์ประจำวัน การรายงานสถานการณ์ล่าสุดทางอีเมลให้กลุ่มผู้รับอีเมล และ/หรือทางเว็บไซต์ จะเป็นการดีที่สุดถ้าได้จัดเตรียมระบบการติดต่อไว้ให้เรียบร้อยก่อนที่เราจะเดินทางมา ระบบการติดต่อได้แก่ แผนภูมิโทรศัพท์ (phone tree) รายชื่อผู้รับอีเมลกลุ่มพิเศษ หรือการเชื่อมต่อเว็บไซต์ เพื่อที่นักกิจกรรมในชุมชนหรือท้องถิ่นของเราจะรู้ว่าพวกเขาจะได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างไร ระบบการติดต่อแบบนี้จะช่วยให้ผู้หนุนช่วยงานด้านกฎหมายเบาใจได้ด้วย และช่วยให้คณะทำงานด้านสื่อในชุมชนหรือท้องถิ่นของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อจะจัดทำระบบนี้ล่วงหน้า จงตระหนักว่าในสถานที่ปฏิบัติการ เราอาจจะมีเวลาน้อยมากและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้น้อยมากอีกด้วย
ผู้รายงานในสภาโฆษก
ไม่ทุกคนหรอกที่จะมีเวลา พลังและความอดทนเพียงพอสำหรับสภาโฆษกของปฏิบัติการขนาดใหญ่ แต่ทุกๆ คนในกลุ่มต้องการข้อมูลข่าวสาร ถ้าคนสักสองสามคนสามารถไปร่วมประชุมได้ทุกคืน พวกเขาจำต้องรับภาระในการนำข้อมูลข่าวสารทั้งหมดมารายงานต่อกลุ่ม
คุณแม่
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้ง เราสรุปได้ว่านักกิจกรรมและกลุ่มเครือสหายดูแลตัวเองได้ไม่ดีเลยในช่วงที่ยุ่งอยู่กับปฏิบัติการระดับเข้มข้น เราจำเป็นต้องมีแม่! เนื่องจากบทบาทนี้มีองค์ประกอบบางอย่างที่เป็นลำดับชั้นอำนาจ และงานก็มากด้วย จึงแนะนำว่าควรผลัดเปลี่ยนกันทำ ยิ่งกว่านั้นเราขอแนะนำให้กลุ่มพิจารณาที่จะพาคุณแม่ออกไปด้วยเพราะแม่มักจะเป็นคนที่มักจะไม่ชอบหรือไม่สามารถออกไปที่ท้องถนนได้ คนคนนี้จะเล่นบทบาทแม่ให้ตลอดการเดินทาง บทบาทของคุณแม่ก็อย่างเช่น
- ปลุกทุกคนให้ตื่นตอนเช้าอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนเวลาออกไป (ไม่ว่าเพื่อนๆ จะคิดว่าตนเองต้องการเวลาทำภารกิจส่วนตัวน้อยแค่ไหนก็ตาม จริงๆ แล้วพวกเรามักคิดไว้น้อยเกินไปเสมอ เวลาชั่วโมงครึ่งนี้เป็นเวลาที่ใช้จริงๆ เพราะมีคนต้องใช้ห้องน้ำหลายคน เราต้องห่ออาหารกลางวัน จัดกระเป๋าใหม่ ช่วยเอางานศิลป์และจัดคนขึ้นรถ)
- ซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
- ทำอาหาร (บางส่วน)
- ดูแลให้คนจัดเตรียมอาหารกลางวัน!
- ซื้อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
- อัดเทปรายการข่าวโทรทัศน์ท้องถิ่น
- ทำความสะอาด
- ช่วยเหลือเวลามีคนต้องการอะไรที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้
- อยู่ใกล้ๆ โทรศัพท์เพื่อคอยรับโทรศัพท์จากเรือนจำ (เราใช้โทรศัพท์มือถือจากในเรือนจำไม่ได้)
- คุณแม่อาจจะเป็นคนเดียวกับผู้หนุนช่วยด้านกฎหมาย
- เรียกคนให้เข้าประชุม
- ถ่ายทอดข้อมูลให้แก่คนที่มาสาย หรืออื่นๆ
- ประคับประคองด้านอารมณ์ แก้ไขความขัดแย้ง
ผู้ดูแลการเดินทาง
จากประสบการณ์ของเราพบว่าการพาคนขึ้น-ลงรถเป็นงานหนัก การใช้กระบวนการประชาธิปไตยในการจัดการเรื่องการเดินทางนั้นแทบจะไม่คุ้มกับความล่าช้าที่เกิดขึ้นเลย จากประสบการณ์ของเรา เราขอแนะนำให้ผลัดเวรกันรับตำแหน่งผู้ดูแล คนคนนี้มีหน้าที่ที่ต้องรู้เรื่องต่อไปนี้ตลอดเวลา
- ตำแหน่งของรถทุกคัน
- ตำแหน่งของกุญแจทุกดอก
- ใครมีใบอนุญาตขับขี่รถชนิดไหน
- กลุ่มย่อยกลุ่มใดจำเป็นต้องไปถึงที่ไหน ในเวลาไหน
นอกเหนือจากเรื่องที่ต้องรู้ดังกล่าวแล้ว ผู้ดูแลการเดินทางต้องมีอำนาจหน้าที่ที่จะ
- ประเมินความต้องการของกลุ่มย่อยและจัดหาพาหนะให้
- ต้อนคนออกนอกประตู
ปฏิบัติการที่ทำได้
ปฏิบัติการท้าทายซึ่งหน้าโดยกลุ่มเครือสหาย
ปฏิบัติการท้าทายซึ่งหน้านั้นเป็นสิ่งที่เข้าท่ามากๆ แต่ปฏิบัติการลักษณะนี้บางแบบค่อนข้างจะเป็นความลับที่รู้กันเฉพาะคนที่เราไว้วางใจเท่านั้น (เช่นการแขวนป้ายใหญ่ๆ) บางปฏิบัติการก็เปิดเผยให้คนมาเข้าร่วมได้มาก และมีการประกาศในสภาโฆษก (เช่น การโจมตีด้วยใบปลิวหน้าร้านค้าของบรรษัท) ถ้ากลุ่มเครือสหายของเรากำลังเตรียมปฏิบัติการเช่นนี้ เราจำเป็นต้องทำเรื่องต่อไปนี้
- หาทำเลเหมาะๆ
- รวบรวมวัสดุอุปกรณ์
- แบ่งบทบาทปฏิบัติการ (ผู้ประสานงานสื่อมวลชน ผู้ประสานงานตำรวจ ผู้เข้าหามวลชน ที่คอยพูดคุยกับคนที่ผ่านไปมา)
- ลงมือทำ
การเข้าร่วมกับกลุ่มอื่น
กลุ่มเครือสหายของเราหรือสมาชิกบางคนอาจจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมปฏิบัติการท้าทายซึ่งหน้าของกลุ่มอื่น เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่กลุ่มของเราจะต้องใช้เวลาพิจารณาตัดสินใจอย่างเป็นประชาธิปไตยว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เพราะว่าผลการตัดสินใจอาจจะเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัพยากรต่างๆ ของกลุ่มได้
การเดินขบวนที่ได้รับอนุญาต
มันเจ๋งพราะที่นี่เราจะพบผู้คนมากที่สุด และมักจะเป็นกลุ่มคนที่แตกต่างกันอย่างที่สุดด้วย ถ้าปฏิบัติการของเราเป็นกิจกรรมเข้าหามวลชนด้วยการจัดการเรียนรู้ให้แก่กลุ่มที่ยังไม่มีความคิดชัดเจนในขบวนการ เราก็จะพบกลุ่มเป้าหมายได้ที่นี่
การเดินขบวนแบบเผ่นหนี
อาจจะจัดขึ้นก่อน ระหว่าง ภายหลัง หรือแม้แต่จัดขึ้นแทนการเดินขบวนที่ได้รับอนุญาต มันเป็นกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะการเข้ายึดท้องถนนทำให้รู้สึกว่ามีพลัง และสนุกมากตอนที่จู่ๆ ก็ “เผ่นหนี” การควบคุมของตำรวจออกไปได้ บางครั้งการออกไปทำอะไรเช่นนี้ก็มีการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อน แต่หลายครั้งเกิดขึ้นแบบฉับพลันจริงๆ บางครั้งเป็นวิธีที่พยายามจะทำให้คนกลุ่มหนึ่งไปถึงจุดหมายที่ใดที่หนึ่งพร้อมๆ กัน
สิ่งกีดขวาง (การสร้างและรื้อ)
เมื่อผู้คนลงไปยึดท้องถนน หลายคนอาจจะตัดสินใจว่าการสร้างสิ่งกีดขวางเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันพื้นที่จากแนวตำรวจที่กระชับเข้ามา พวกเขาอาจจะยึดทรัพย์สินสาธารณะเช่นราวกั้นที่เป็นโลหะเพื่อเพิ่มความปลอดภัย หรืออีกทางหนึ่ง เมื่อสิ่งกีดขวางถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้พลเมืองใช้สิทธิในการพูดอย่างเสรี คนบางคนอาจจะพิจารณาเห็นว่าเป็นหน้าที่ของตนที่จะรื้อสิ่งกีดขวางนั้นลง ไม่ว่าอย่างไหนก็เป็นการฝึกปฏิบัติที่ดีทั้งนั้น และเป็นบทเรียนอย่างดีในเรื่องการทำงานเป็นทีม
การทำงานร่วมกับกลุ่มนักปฏิบัติการ
นักกิจกรรมในกลุ่มของคุณอาจตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกับกลุ่มนักปฏิบัติการ จะเป็นการดีที่สุดถ้าจะทำงานนี้เป็นคู่ดูโอหรือจับกลุ่มสามคนเพื่อจะได้ช่วยดูแลกัน แม้ว่าจะมีความรับผิดชอบต่อคณะทำงานด้านปฏิบัติการ แต่พวกเขาก็ยังคงต้องรับผิดชอบต่อกลุ่มเครือสหายด้วย และต้องพร้อมเสมอที่จะรับบทบาทสำคัญๆ ในกลุ่ม พวกเขายังคงต้องสื่อสารกันตามปกติ และต้องสนับสนุนปฏิบัติการของกลุ่ม กลุ่มนักปฏิบัติการที่จะเข้าร่วมได้มีหลากหลายด้าน เช่น
- กลุ่มฟู้ดนอตบอมส์ : เตรียมอาหารสำหรับนักกิจกรรม
- หน่วยพยาบาล : จัดให้มีการดูแลบนท้องถนนให้แก่นักกิจกรรม (มักจะมีการจัดอบรมให้ก่อนปฏิบัติการหลายวัน)
- ทีมกฎหมาย : จัดให้มีการสนับสนุนด้านกฎหมายแก่นักกิจกรรม กลุ่มนี้อาจไม่เปิดให้คนนอกเข้าร่วม แต่ถ้าเปิด ความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการคือ
- ช่วยในการอบรมหัวข้อ “รู้จักสิทธิของเรา”
- รับโทรศัพท์ในที่ทำการทีมกฎหมาย
- รับคนออกมาจากคุก
- จัดกิจกรรมความเป็นเอกภาพในคุก
- ผู้สังเกตการณ์ด้านกฎหมาย : ทีมผู้สังเกตการณ์ด้านกฎหมายจะจัดเตรียมข้อมูลให้แก่ทีมกฎหมาย ซึ่งคนละทีมกัน ผู้สังเกตการณ์ด้านกฎหมายคือผู้สังเกตการณ์อิสระที่ได้รับการอบรมและมีความสามารถ ทำหน้าที่บันทึกการติดต่อสัมพันธ์ใดๆ ระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง พวกเขาจะพกกล้องถ่ายรูป อุปกรณ์บันทึกเทป และกระดาษโน้ต และคอยระวังที่จะเก็บหลักฐานต่างๆ ที่อาจจะใช้ได้ในการดำเนินการทางศาล ในการจัดปฏิบัติการครั้งหนึ่งๆ จำเป็นต้องมีผู้สังเกตการณ์ด้านกฎหมายจำนวนมาก และจะมีการจัดอบรมให้ล่วงหน้าก่อนปฏิบัติการ แนวทางที่จะช่วยให้ทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ด้านกฎหมายดูภาคผนวกซึ่งนำข้อมูลมาจากเว็บไซต์ของกลุ่มมิดไนต์สเปเชียล และกลุ่มจัสต์คอส
- ศูนย์สื่อมวลชนอิสระ (Independent Media Center: IMC) : ลองเป็นสื่อกับกลุ่มไอเอ็มซีดูบ้าง ซึ่งมีบทบาทหลายอย่างเช่น
- เข้าร่วมทีมผลิตวิดีโอสั้นๆ หรือหนังสือพิมพ์รายวันท้องถิ่น
- ดูแลความปลอดภัยของการทำงาน
- สนับสนุนด้านเทคนิคให้แก่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ของศูนย์
- รับโทรศัพท์ รับรายงานที่มาจากท้องถนน และนำส่งสำนักข่าว
- ทีมสื่อปฏิบัติการ : เป็นคนละทีมกับทีมไอเอ็มซี ปกติแล้วทีมจัดปฏิบัติการท้าทายซึ่งหน้าจะมีทีมสื่อมวลชนของตนเองคอยรับมือกับคำถามของนักข่าว และการแถลงข่าวบนเวที พวกเขาต้องการคนช่วยในด้าน
- วิเคราะห์สื่อ
- จัดและประชาสัมพันธ์การประชุมแถลงข่าว
- เขียนเอกสารแถลงข่าว
- ให้สัมภาษณ์สื่อทางโทรศัพท์หรือวิดีโอ
- จุดนัดพบ/ศูนย์ต้อนรับ : ศูนย์นี้มักจะขาดคนช่วยทำงานอยู่เสมอ บทบาทสำคัญบางอย่างได้แก่
- ทำหน้าที่ที่โต๊ะต้อนรับ ตอบคำถามต่างๆ ช่วยให้คนอื่นได้รับข้อมูลที่เขาต้องการ (มีการจัดอบรมให้)
- รับโทรศัพท์
- รักษาความปลอดภัย (มีการจัดอบรมให้)
- ดูแลเด็ก
- วิ่งไปหยิบโน่นหยิบนี่ ถ่ายเอกสาร
ผู้แปล: ลภาพรรณ ศุภมันตา
แปลจาก “mass action handbook: getting your community on the road and into the street”, http://www.uproot.info/actionhandbook/index.html
Photo by Jeppe Mønster on Unsplash